“Los Feliz” คฤหาสน์แห่งฝันร้าย
ภาพจาก : cvltnation.com
คฤหาสน์
Los Feliz
ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่
20 โดยมีครอบครัวของ ดร. Harold Perelson อาศัยอยู่อย่าง (เหมือน)
มีความสุข แต่แล้วความสงบเงียบก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องสยองขวัญ เพราะในกลางดึกวันที่
6 ธ.ค. 1959 ดร. Harold ได้ลงมือฆ่าภรรยาอย่างเหี้ยมโหดด้วยการฟาดด้วย
“ค้อนตอกตะปู” พร้อมกับพยายามฆ่าลูกๆอีกสามคน!!!
“อย่าฆ่าฉัน!!!”
เสียงกรีดร้องของ “จูดี้” ลูกสาวคนโต ดังทำลายความเงียบสนิทของรัตติกาล เมื่อถูกผู้เป็นพ่อพยายามฟาดด้วยค้อนเข้าที่ศีรษะ เสียงนั้นปลุกเพื่อนบ้าน และน้องอีกสองคนให้ตื่นขึ้นมา ในขณะที่ ดร.คลั่ง ตวาดให้เธอเงียบ และอยู่นิ่งๆ แต่เด็กสาวไม่ฟัง พยายามหนีไปจนพบร่างของแม่นอนจมกองเลือดอยู่ เธอตกใจมาก แต่ก็ยังรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีไปตามถนนเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน
ภาพจาก : cvltnation.com
เมื่อน้องชายทั้งสองที่ตกใจกับเสียงกรีดร้องเดินเข้ามาให้นั่งเล่นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาพบ ดร.คลั่ง ที่หันมาบอกกับลูกชายทั้งสองว่า
“กลับไปนอนเสีย นี่มันแค่ฝันร้าย!”
หลังจากนั้น
เขาก็ได้จบชีวิตตัวเองหลังจากที่เหล่าลูกสาวได้หนีไปด้วยการผสมยากล่อมประสาทอย่างรุนแรง
เขาตายก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึงเสียอีก...
ตำรวจเชื่อว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมโหด มาจากการลงทุนเป็นจำนวนมากกับการวิจัย และผลิตเข็มฉีดยาแบบใหม่ แต่แล้วเขากลับหมดสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายมัน ทำให้เกิดปัญหาด้านการเงิน บวกเข้ากับปัญหาที่น่าขนลุก จากการพบหนังสือที่มีเนื้อหาของ Divine Comedy ของ Dante (วรรณกรรมเอกของอิตาลี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้แต่งที่จินตนาการว่าได้เดินทางท่อง Inferno Purgatory และ Paradise) เปิดค้างเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอน
ภาพจาก : cvltnation.com
สองปีต่อมา
บ้านหลังนี้ถูกขายให้กับครอบครัว Enriquez ที่ใช้เป็นที่เก็บของ
โดยที่พวกเขาไม่เคยพักค้างคืนเลยแม้แต่ครั้งเดียว และขายให้กับคู่รักในปี 2016 ราคาประมาณ
2.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ในตอนแรกต้องการที่รีโนเวทมันใหม่เพื่ออยู่อาศัย
แต่แล้วดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนใจเพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวบางสิ่งที่อยู่ภายในนั้น
ทำให้ไม่กี่ปีต่อมา มันก็ถูกนำมาขายทอดตลาดอีกครั้ง
มีช่างภาพหลายคนที่เข้าไปถ่ายภาพบ้านหลังนี้ แล้วมีความรู้สึกแปลกๆ ราวกับสัญชาตญาณกำลังกรีดร้องให้ “ถอยห่าง”
เมื่อเข้าใกล้มัน และทุกวันนี้ ทุกห้องในบ้านหลังนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมกับคืนวันเกิดเหตุสยอง
โดยไม่มีใครกล้าไปแตะต้องมันอีกเลย...