ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน (Bluey Blundstone’s Blacksmith Shop) เปิดให้พักพร้อมเสิร์ฟเรื่องผี แห่งประเทศออสเตรเลีย

วิลเลียม บลูลี่ บลันสโตน (William 'Bluey' Blundstone) ได้เปิดร้านช่างตีเหล็กเล็ก ๆ ขึ้นในเมืองเมลโรส ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ในปี 1865 หลังจากที่อพยพมาจากประเทศอังกฤษกับ “มาร์ธา” ภรรยา หลังจากนั้น เขาก็ได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญของเมืองอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนใหญ่แล้วเขาทำงานตีเหล็กให้กับตำรวจในสถานีท้องถิ่น
เขาเป็นชายที่มีอายุยืนยาวมากและเสียชีวิตในปี 1908 หลังจากนั้นร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน (Bluey Blundstone’s Blacksmith Shop) ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบกิจการกลายมาเป็นที่พักระดับหรูหรา แต่โครงสร้างรวมไปถึงบรรยากาศก็ยังคงมีการรักษาความดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้
เรื่องราวอาถรรพ์ ณ ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน

เจ้าของที่รับช่วงมรดกร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตนมาจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงบรรดาคนที่เข้ามาเยี่ยมเยือยมักอ้างว่าได้สัมผัสกับเรื่องราวอาถรรพ์ หลายคนได้พบเห็นชาย-หญิง เดินไปมาอยู่รอบบริเวณของร้าน เชื่อว่าอาจจะเป็นวิญญาณของผู้ก่อตั้งร้านทั้งสองที่ยังคงวนเวียนอยู่เพื่อดูแลร้านและบ้านอันเป็นที่รักของพวกเขา
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับเด็กสาวที่ชื่อว่า “แมรี่” วิญญาณที่เข้ามาสิงสู่อยู่ ณ ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน บางคนอ้างว่าถูกเธอปลุกขึ้นมาในตอนกลางดึกให้ขนลุกเล่น แต่เธอก็มัได้ทำอะไรที่เป็นการคุกคามไปมากกว่านั้น
เชื่อกันว่าวิญญาณของแมรี่อาจจะมาจากสวนสาธารณะข้าง ๆ ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน เดิมที่สวนแห่งนี้เคยเป็นสุสานดั้งเดิมของเมือง ในปี 1872 มีการขุดศพขึ้นมาจำนวนหนึ่งเพื่อย้ายไปยังสุสานแห่งใหม่ และดูเหมือนว่าเธอน่าจะเป็นหนึ่งในศพที่ถูกเคลื่อนย้ายไป แต่วิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม
ยังมีกิจกรรมอาถรรพ์อีกมากมายที่เกิดขึ้น ณ ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน แต่น่าแปลกใจที่ประสบการณ์ส่วนใหญ่ของผู้มาเยือนไม่ได้เป็นไปในด้านลบเลยเช่นกัน
การเดินทางมาเยี่ยมชมร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน

ร้านช่างตีเหล็กของบลูลี่บลันสโตน เปิดให้บริการห้องพักที่เหมือนใคร โดยมีห้องพักให้เลือกกันสามแบบ เช่น ห้องใต้หลังคา กระท่อมและโรงนา ส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวอาถรรพ์ต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นในบริเวณห้องใต้หลังคา ดังนั้น ถ้าหากใครอยากสัมผัสความหลอนการเลือกพักในห้องใต้หลังคาอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน...
