วิธีรับมือกับผีอำสไตล์ไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์
“ผีอำ” คือหนึ่งในปรากฏการณ์สุดหลอนที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง อย่างไรก็ตามดูเหมือนหลายคนจะไม่สามารถหลีกหนีจากประสบการณ์สุดหลอนนี้พ้น ในขณะที่บางคนอาจถูกปรากฏการณ์ผีอำครอบงำเป็นบางครั้ง แต่คนอื่นๆที่โชคร้ายกว่ากลับเกิดอาการผีอำขึ้นบ่อยๆจนทำให้ไม่เป็นอันหลับอันนอนพ่วงแถมมาด้วยความตื่นตระหนกสุดหลอนว่ากำลังมีสิ่งลี้ลับบางอย่างกำลังเล่นตลกกับตัวเองอยู่หรือเปล่า?
ผีอำตามความเชื่อของไสยศาสตร์คืออะไร?
ผีอำคือหนึ่งในประสบการณ์สุดหลอนที่คนทั่วโลกไม่ว่าจะเชื้อชาติ วัฒนธรรมหรือศาสนาใดก็ล้วนแล้วแต่เคยประสบพบเจอเหมือนกันมาตั้งแต่โบราณ โดยมักปรากกฎขึ้นในช่วงที่กำลังเคลิ้มหลับแล้วพลันรู้สึกอึดอัดเหมือนกับมีบางสิ่งกดทับอยู่บนร่างกายจนทำให้ไม่สามารถขยับตัวหรือส่งเสียงออกมาได้ ความน่าสะพรึงกลัวและความตื่นตระหนกทำให้คนทั่วไปเชื่อว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจาก “ผีอำ” ด้วยอำนาจของสิ่งลี้ลับที่มุ่งร้ายหมายทำร้ายหรือต้องการบางสิ่งจากคนที่ประสบ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผีอำขึ้น
ตามความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์เชื่อกันว่าผีอำคืออาการที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของสิ่งลี้ลับ ซึ่งคนที่ถูกสิ่งเหล่านี้ตามมารบกวนในขณะที่นอนหลับมักเกิดขึ้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้
1.ผีอำจากความปากพล่อย
หลายครั้งทีอาการผีอำเกิดขึ้นจากความ “ปากพล่อย” ของผู้ที่ถูกผีอำ เช่น ในขณะที่นำของไปถวายเจ้าที่ หรือไปร่วมงานศพแล้วปากพล่อยบอกกับสิ่งลี้ลับว่า “คืนนี้มาหาหน่อย” เพียงเท่านี้เหมือนกับเป็นการออกปากเชื้อเชิญให้สิ่งลี้ลับสามารถติดตามเข้าในบ้านได้ จนทำให้เกิดอาการผีอำขึ้น
2.ผีอำจากการแสดงความท้าทาย
การแสดงความท้าทายคือสิ่งที่ทำให้เกิดผีอำขึ้นบ่อยที่สุด โดยเฉพาะกับคนที่ออกปากแสดงความท้าทายในสถานที่ที่ไม่สมควรอย่างมากเช่น ป่าช้า วัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีการรวมตัวกันของสิ่งลี้ลับอยู่เป็นจำนวนมาก
3.ผีอำจากการไม่บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง
เมื่อต้องเดินทางแล้วแวะนอนหลับพักผ่อนในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยขอแนะนำให้ก่อนเข้านอนให้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางก่อนว่าตนเองมาทำอะไร และกำลังจะไปให้เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางรับทราบซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดปัญหาผีอำให้ลดน้อยลงอย่างมากเลยทีเดียว
การป้องกันแก้ไขอาการผีอำ
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อเกิดอาการผีอำขึ้น วิธีในการรับมือที่ดีที่สุด มีดังต่อไปนี้
1.สำรวจก่อนว่าตนเองกำลังหลับหรือตื่นอยู่
ในบางครั้งความรู้สึกคล้ายถูกผีอำอาจเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนอนหลับฝันอยู่ ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ ดังนั้นจึงควรสำรวจในแน่ใจก่อนว่าในขณะที่เกิดผีอำขึ้นกำลังตื่นหรือหลับอยู่ โดยพยายามนึกหมายเลขบัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง ถ้าหากกำลังฝันอยู่จะไม่สามารถจดจำรายละเอียดเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน
2.ตั้งสติเมื่อถูกผีอำ
เป็นสิ่งที่ควรทำก่อนเป็นอันดับแรกแล้วลองพยายามขยับตัวหรือพูดว่าทำได้หรือเปล่า ถ้าหากไม่สามารถทำได้ให้รออีกสักครู่แล้วจึงค่อยทำการทดสอบใหม่อีกครั้ง
3.ตั้งจิตสวดมนตร์
บทสวดพื้นฐานอย่าง นะโม ตัสสะ ... นอกจากจะช่วยขับไล่วิญญาณร้ายแล้ว ยังช่วยในการสงบจิตใจรวบรวมสมาธิเอาไว้ในเรื่องเดียวซึ่งจะช่วยทำให้หลุดพ้นได้จากอาการผีอำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าการนอนใต้ “คานบ้าน” เป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการผีอำขึ้นและการข่มขู่สิ่งลี้ลับว่าหากไม่ปล่อยให้เป็นอิสระจะแช่ง หรือบอกกล่าวกับอีกฝ่ายเพื่อถามสิ่งที่ต้องการดีๆก็เป็นสิ่งที่ช่วยแก้ไขอาการผีอำได้เช่นกัน
เมื่อทราบวิธีการรับมือเหล่านี้กันแล้ว เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนคงสบายใจขึ้นเมื่อรู้ขั้นตอนการรับมืออย่างเหมาะสม เพื่อที่จะได้เข้านอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจปราศจากความกังวลในเรื่องของผีอำกัน
ผีอำตามความเชื่อของวิทยาศาสตร์คืออะไร?
ในทางวิทยาศาสตร์ผีอำ หรือ Sleep Paralysis คือ อาการของจิตใจรูปแบบหนึ่งที่ส่งผลกระทบทำให้ร่างกายไม่สามารถขยับได้ในขณะที่นอนหลับในช่วง REM Sleep ซึ่งการนอนหลับในช่วงเวลานี้ร่างกายจะเกิดการหลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันอันตรายจากร่างกายในขณะที่นอนหลับแล้วฝันจนเกิดการบาดเจ็บขึ้นจากการขยับร่างกายโดยปราศจากสติหรือป้องกันไม่ให้เกิดอาการละเมอขึ้น และเมื่อตื่นขึ้นฮอร์โมนดังกล่าวก็จะหยุดหลั่งเองตามธรรมชาติ
ในบางครั้งเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาฮอร์โมนดังกล่าวยังคงหลงเหลืออยู่อาการนี้ก็ยังคงอยู่ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถขยับตัวได้อย่างที่คิดจนกลายมาเป็นอาการผีอำขึ้นมา โดยอาการนี้เกิดขึ้นได้บ่อยกับคนที่มีอายุ 20-40 ปี และยังเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวันตลอดชีวิต จึงไม่น่าแปลกใจที่คนที่มักถูกผีอำจะเกิดขึ้นกับคนในช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะในช่วงวัย 20-30 ปี โดยปกติอาการผีอำจะเกิดขึ้นเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรือยาวนานหลายนาที แต่ยังสามารถหายใจได้ตามปกติและสามารถรับรู้สิ่งต่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ แต่ถึงแม้จะพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วยก็จะไม่มีใครได้ยินเนื่องจากไม่มีเสียงออกมา และเมื่อตื่นขึ้นอย่างเต็มที่หรือมีคนมาปลุกก็จะจดจำรายละเอียดที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยมักมีอาการดังต่อไปนี้
o พูดไม่ได้
o ขยับแขน ขา ลำตัวและศีรษะไม่ได้
o เกิดสภาวะหลอนทางประสาทสัมผัส ทำให้มองเห็น หรือได้ยินบางอย่างหรือบางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เช่น เสียงเคาะประตู เสียหายใจ เสียงกระซิบพูดคุยกันหรือบางครั้งอาจรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะออกจากร่าง บินได้หมุนคว้างกลางอากาศ เป็นต้น ในบางครั้งอาจมีการพูดจาตอบโต้กับสิ่งลวงตาที่เห็นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
o หายใจลำบาก ติดขัด
อาการผีอำอาจยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นเช่น “สภาวะง่วงจนเกินไป” หรือโรคลมหลับ (Narcolepsy) เป็นหนึ่งในรูปแบบของการนอนหลับที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนอย่างมากในระหว่างวันมีหลายครั้งที่มีรายงานว่าคนที่มีอาการป่วยนี้อาจเผลอหลับเหมือยกับเป็นคนล้มพับไปอย่างฉับพลันซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ อาการผีอำอาจเกิดขึ้นได้ตามกรรมพันธุ์ หรือ โรคผีอำตามกรรมพันธุ์ (Familial Sleep Paralysis) ได้อีกด้วย
ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดปัญหาผีอำขึ้นคือ?
o มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการผีอำขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่ทำให้ปรากฏการณ์ผีอำเกิดขึ้นคือ
o การอดนอนมากจนเกินไปเป็นเวลานานหลายวัน
o การนอนหลับอย่างไม่เป็นเวลา เข้านอนผิดเวลา
o การนอนหงาย เป็นท่านอนที่มักทำให้เกิดอาการผีอำมากที่สุด ในขณะที่ท่านอนอื่นอย่างเช่นการนอนตะแคงก็มีโอกาสที่จเกิดขึ้นได้เช่นกัน
o ความเครียดที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมากในร่างกาย
o ผลข้างเคียงจากยาบางประเภท
o การดื่มแอลกอฮอล์
o การใช้ยาเสพติดบางประเภท
o อาการตะคริวที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่นอนหลับ
o อาการข้างเคียงจากโรคไบโพลาร์ และโรคประจำตัวอื่นๆ
o สภาวะควบคุมฝันได้ (Lucid Dream) หรือความฝันที่ผู้ฝันรู้ตัวว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
o การทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก่อนเข้านอน
o การดูโทรทัศน์หรืออ่านอินเทอร์เน็ตที่เต็มไปด้วยข่าวสารที่เคร่งเครียด
o การเข้านอนทั้งที่รู้สึกหิวมาก แต่ไม่ควรเข้านอนหลังจากอาหารมื้อใหญ่ทันทีอย่างน้อย 1-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
o การฟังเพลงเสียงดังหรือมีจังหวะเร้าอารมณ์จนหัวใจเต้นเร็วก่อนเข้านอน
o การนอนกอดอกจนทำให้รู้สึกถึงแรงกดจนทำให้เกิดฝันร้ายว่าร่างกายกำลังถูกสิ่งลี้ลับกดร่างกายอยู่
การป้องกันแก้ไขปัญหาผีอำในเชิงวิทยาศาสตร์คือ?
โดยทั่วไปแล้วอาการผีอำสามารถหายไปได้เองเมื่อถูกคนอื่นมาสัมผัสร่างกาย รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และหมั่นใส่ใจในสุขภาพของตัวเองเพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้อาการผีอำเกิดขึ้น โดยมีขึ้นตอนที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
·