ปราสาทแห่งการฆาตกรรมของสัตว์ร้ายสุดโหด H.H. Holmes แห่งเมืองชาคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

H.H. Holmes เป็นชาย (หรือสัตว์ร้าย) ที่ได้รับการจารึกลงหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะของฆาตกรที่มือเปื้อนเลือดที่ฆ่าคนเป็นว่าเล่น เชื่อกันว่าเหยื่อส่วนใหญ่ของเขาเป็นผู้หญิง ซึ่งจำนวนของผู้เสียชีวิตมีมากถึง 20-200 ราย เลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีความโดดเด่นเป็นอย่างมากคือการสังหารเหยื่อในสถานที่ที่เขาเรียกว่า “ปราสาทฆาตกรรม” (Murder Castle)
H.H. Holmes เป็นฆาตกรที่เฉลียวฉลาด และยังเป็นนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน เขาขโมยศพออกไปเพื่อใช้ในการปลอมแปลงรับเงินประกันภัย และเชื่อว่าบางทีเขาอาจใช้ศพเหล่านั้นมาใช้ในการทดลองกายวิภาคสุดสยอง
หลังจากนั้น เขาสร้างบ้านสามชั้นขึ้นมาด้วยความวิจิตรบรรจง ชั้นบนเป็นสถานที่พักอาศัยและยังมีห้องขนาดเล็กมากมายที่นำมาใช้ในการทรมานและฆ่าเหยื่อ พร้อมติดตั้งกับดักกันการหลบหนี รถรางสำหรับการเคลื่อนย้ายศพลงไปยังชั้นใต้ดินอย่างไม่ต้องเปลืองแรง
การสังหารผู้คนราวสัตว์ร้ายของ H.H. Holmes

H.H. Holmes จะทำการหลอกล่อเหยื่อให้ตามมาในปราสาทของเขา ด้วยการเปิดมันเป็นโรงแรมอ้าแขนต้อนรับผู้มาเยือนหรือติดประกาศรับสมัครงาน เมื่อเหยื่อของ H.H. Holmes ฮุบเบ็ด หลายรายถูกทุบตี บางคนถูกรัดคอจนตายก่อนที่จะถูกจับโยนลงไปในหลุมใต้ดินที่มีปูนขาวและน้ำกรด ทั้งสองสิ่งนี้ทำหน้าที่ในการย่อยสลายเนื้ออย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงกระดูก บางครั้งเขาจะนำกระดูกเหล่านี้ออกไปขาย จนกลายเป็นช่องทางการทำกำไรอันน่าสะพรึงกลัวได้อย่างง่ายดาย หรืออาจทำลายศพด้วยเตาเผาที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในห้องใต้ดิน
ลังจากที่ถูกจับกุม H.H. Holmes สารภาพว่าฆ่าคนไป 27 คน ถูกตัดสินให้มีความผิดโทษฐานฆาตกรรมและฉ้อโกงเงินประกันภัย ส่งผลให้เขาถูกประหารชีวิตในวันที่ 7 พ.ค.1896 และร่างถูกนำไปฝังเอาไว้ในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย
อวสานของปราสาทแห่งการฆาตกรรม

ก่อนวันพิพากษาจะมาถึง ปราสาทแห่งการฆาตกรรมได้ถูกเพลิงไหม้ แต่มันก็ไม่ได้ไหม้จนหมด มีเพียงสองชั้นบนสุดเท่านั้นที่กลายเป็นเถ้าถ่าน ทำให้ส่วนที่เหลือของมันได้รับการบูรณะปรับปรุงทั้งที่มีประวัติศาสตร์สุดหลอนก็ตาม มันยังคงอยู่ในฐานะอาคารอุตสาหกรรมมาจนถึงปลายปี 1930 ก่อนที่จะถูกทำลายลงและมีการสร้างที่ทำการไปรษณีย์ขึ้นบนที่ตั้งเดิมของปราสาทแห่งการฆาตกรรม ในช่วงการก่อสร้างนี้เองที่เหล่าคนงานได้พบกับความจริงที่น่าประหลาดใจว่า ส่วนที่เหลือของปราสาทแห่งการฆาตกรรมทั้งหมดล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอุโมงค์หลบหนี้ดิน ที่ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางอันคดเคี้ยวนี้ไปบรรจบลงที่ใดกันแน่..!?
