“ผีถ้วยแก้ว” เป็นหนึ่งในการละเล่นที่สามารถพบได้ในวัฒนธรรมทั่วโลก แต่อาจจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่มีใจความสำคัญเหมือนกันว่าเป็นพิธีกรรมแบบง่ายๆ ในการติดต่อกับ “ผี” หรือ “วิญญาณ” เพื่อซักถามหรือผีถ้วยแก้วทำนายอนาคตให้
ความเชื่อเกี่ยวกับผีถ้วยแก้วในทวีปตะวันออก
"Die-Xian" ภาพจาก : myterieux.centerblog.net
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ชาวจีน เป็นชนชาติแรกที่นำกระดานวิญญาณหรือการเล่นผีถ้วยแก้วมาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับวิญญาณ ตั้งแต่ ค.ศ. 1100 (สมัยราชวงศ์ซ่ง) โดยเรียกกะรดานวิญญาณว่า “ฝูจี” กระดานวิญญาณในจีนขณะนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีการจัดทำตำราบันทึกการเล่นอย่างจริงจัง ต่อมาการเล่นกระดานวิญญาณถูกห้ามในยุคราชวงศ์ชิง ก่อนเกิดการ “ปฎิวัติชินไฮ่” ได้ไม่นานนัก ในปัจจุบันฝูจี ได้เปลี่ยนรูปแบบไปเป็น “Die-Xian” ที่มีความทันสมัยมากขึ้น สิ่งที่ทำให้กระดานวิญญาณทั้งสองแตกต่างกันคือ ฝูจี เป็นพิธีกรรมอย่างเป็นทางการของลัทธิเต๋าด้วยการอัญเชิญเทพเพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆ ในขณะที่ Die-Xian เป็นการละเล่นที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการอัญเชิญดวงวิญญาณมาเพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆ
ความเชื่อเกี่ยวกับผีถ้วยแก้วในทวีปตะวันตก
"Ouija Board" ภาพจาก : paranormal.lovetoknow.com
ในทวีปตะวันตก ผีถ้วยแก้ว ถูกเรียกว่า “กระดานวิญญาณ” (Spirt board) หรือ Ouija Board ที่มีรากศัพท์ของคำว่า “Oui” ในภาษาฝรั่งเศส และคำว่า “Ja” ที่มีความหมายเดียวกันในประเทศเยอรมัน บางครั้งถูกเรียกว่า “กระดานพูดได้” (Talking Board) ในปี 1890 ที่กระดานวิญญาณเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น พวกมันเป็นเพียงของเล่นสำเร็จรูป ในรูปแบบของเกมกระดานสำหรับไว้เล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่มันถูกเปลี่ยนไปเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสารกับคนตายได้เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น เมื่อมีคนหนึ่งบอกกับคนอื่นว่ามันสามารถใช้ติดต่อกับวิญญาณได้ หลังจากนั้นชาวอเมริกันนับพันคนก็แห่กันไปซื้อกระดานวิญญาณเพื่อติดต่อกับคนรักที่เสียชีวิตในสนามเพลาะที่ประเทศฝรั่งเศสในสมรภูมิฝรั่งเศส
เหตุผลที่ทำให้การเล่นผีถ้วยแก้ว ได้รับความนิยม
เมื่อมีพบก็ต้องมีจาก เมื่อมีเกิดก็ต้องมีแตกดับ... สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรมของโลก แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์ที่เต็มไปด้วยความห่วงหาอาวรณ์จะไม่สามารถรับความจริงดังกล่าวได้ ทำให้มีศาสตร์มากมายที่พยายามสื่อสารติดต่อกับวิญญาณมากอย่างช้านาน ซึ่ง “ผีถ้วยแก้ว” ก็เป็นหนึ่งในพิธีกรรมสุดลี้ลับที่คนจำนวนมากเชื่อว่าสามารถบรรลุความต้องการในการติดต่อได้จริง ในขณะเดียวกันก็เป็นกิจกรรมลองความกล้า ท้าขวัญของเหล่าวัยรุ่นที่นิยมการลองของ ด้วยเหตุผลทั้งสองข้อนี้เอง ที่ทำให้ผีถ้วยแก้วยังคงได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเสื่อมคลาย
การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเล่นผีถ้วยแก้ว
รูปแบบการเล่นของผีถ้วยแก้วจะมีความคล้ายคลึงกันไม่ว่าจะเล่นในวัฒนธรรมใด มุมไหนของโลก คือ มีลักษณะเป็นกระดานไม้ กระดาษแข็ง หรือกระดาษธรรมดาที่สามารถหาได้ทั่วไปมาทำการตีเป็นช่องสี่เหลี่ยม ที่มีตัวอักษร พยัญชนะ วรรณยุกต์ ตัวเลข รวมไปถึงคำว่า “ใช่ – ไม่ใช่” หรือ “ออก – ไม่ออก” พร้อมกับมีตำแหน่งว่าง หรือ “ที่พัก” เพื่อให้ “วัตถุสื่อนำวิญญาณ” ได้พัก ซึ่งวัตถุดังกล่าวจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละประเทศ ในประเทศไทยนิยมใช้ “แก้ว” แต่ไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่าต้องเป็นแก้วทรงใด มีขนาดสูงต่ำมากแค่ไหน แต่โดยทั่วไปมักจะใช้แก้วขนาดเล็ก แก้วเป๊ก หรือแก้วช๊อต เป็นต้น ในบางครั้งยังมีการใช้ “เหรียญ” แทนแก้ว เรียกกันว่า “ผีเหรียญ” เชื่อกันว่าห้ามใช้เหรียญบาท เนื่องจากมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์อยู่ และบางครั้งก็มีการเล่น “ผีปากกา” โดยการใช้ปากกาลูกลื่นเป็นวัตถุนำวิญญาณด้วยเช่นกัน
ภาพจาก : topicza.com
นอกจากอุปกรณ์ทั้งสองอย่างในการเล่นผีถ้วยแก้วที่คล้ายคลึงกันทั่วโลกที่ได้กล่าวถึงกันไปแล้วในตอนต้น ในประเทศไทยจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมคือ “ธูป” สำหรับนำมาใช้ในตอนเริ่มต้นพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณมาเพื่อสิงสู่ในวัตถุนำวิญญาณ และอาจมีการเตรียมเครื่องเซ่น เช่น หมาก พลู อาหารคาวหวาน มาไว้ด้วยก็ได้
การอัญเชิญวิญญาณสิงสู่วัตถุ
หลังจากเตรียมอุปกรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเข้าสู่การอัญเชิญวิญญาณให้เข้ามาสิงสู่ในวัตถุสื่อนำวิญญาณ โดยในประเทศไทยจะทำการจุดธูป 7 หรือ 9 ดอก (บางตำราบอกว่า 16 ดอก) ในที่แจ้งไม่มีหลังคาเพื่อบอกกล่าว ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อให้อนุญาตให้ดวงวิญญาณที่อัญเชิญมาสามารถเข้ามาสิงสถิตอยู่ภายในวัตถุนำวิญญาณ แล้วทำการร่ายคาถาเพื่อเชิญดวงวิญญาณ ด้วยการตั้งจิตอธิษฐานขอเชิญดวงวิญญาณที่อยู่ในบริเวณนั้น โดยไม่ต้องเจาะจงว่า
“ขอเชิญดวงวิญญาณของผู้ใด ที่สิงสถิตอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ให้ตามข้าพเจ้ามา แล้วเข้าไปอยู่ในแก้วด้วยเถิด”
ภาพจาก : dailymail.co.uk
หลังจากนั้นให้นำควันธูปมาใส่ไว้ในแก้วแล้วปิดให้สนิท ปักธูปทิ้งเอาไว้ แล้วนำแก้วกลับมาคว่ำลงบนแผ่นกระดานหลังจากนั้นผู้เล่นทั้งหมดให้นำนิ้วมาแตะที่ขอบแก้วเบาๆ โดยเริ่มจากคนที่ทำการจุดธูปวนตามเข็มนาฬิกา เมื่อครบทั้งหมดให้กล่าวคาถา 4 พยางค์ คือ “พุท โธ ธา ยะ” เริ่มจากคนที่จุดธูปให้กล่าวคำว่า “พุท” คนที่สองกล่าวคำว่า “โธ” ไปจนครบทั้ง 4 คน เป็นจำนวน 3 จบ แล้วให้ผู้จุดธูปกล่าวอัญเชิญอีกครั้ง หากทำซ้ำไปแล้ว 3-4 ครั้ง แก้วไม่ขยับ ให้เชิญวิญญาณออก แล้วทำการหักธูปทิ้งให้เป็นสองท่อน แต่ถ้าหากแก้วขยับ จึงค่อยทำการสอบถามในสิ่งที่ต้องการรู้ ด้วยการที่วัตถุนำวิญญาณจะเคลื่อนไปยังตัวอักษรในช่องต่างๆ เมื่อนำมารวมกันก็จะกลายเป็นคำตอบนั่นเอง
การอัญเชิญวิญญาณให้ออกจากการสิงสู่วัตถุ
ภาพจาก : wearemitu.com
ก่อนที่จะทำการเลิกเล่นผีถ้วยแก้ว ความเชื่อทั้งของไทย และต่างประเทศจะเหมือนกันคือ ต้องขอเชิญให้วิญญาณออกจากการสิงสู่วัตถุนำวิญญาณ แล้วขอให้เคลื่อนที่ไปยังคำทักทายว่า “สวัสดี” หรือ “ลาก่อน” หรือ ให้ไปที่มุมของกระดาน แล้วกล่าวคำขอบคุณวิญญาณแล้วทำการหงายแก้ว ห้ามเลิกเล่นกลางคันโดยไม่ทำพิธีเชิญวิญญาณให้ออกจากแก้วอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าเมื่อวิญญาณออกจากวัตถุนำวิญญาณไปแล้ว อาจมีใจอยากติดต่อสื่อสารกลับมาบ้าง หรืออาจมีจิตเสน่หาอยากไปเยี่ยมเยือนผู้เล่นที่เคยร่วมการสนทนาด้วยกันบ้าง ทำให้เกิดปรากฏการณ์มาเยือนจากสิ่งลี้ลับอย่างไม่ทันตั้งตัว และเมื่อทำการเล่นผีถ้วยแก้วเสร็จแล้ว ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณที่มาด้วยจะเป็นการดีที่สุด
ข้อห้ามในการเล่นผีถ้วยแก้ว
ภาพจาก : thesun.co.uk
สำหรับการเล่นผีถ้วยแก้วนั้น มีข้อห้ามหลายประการแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปแล้ว การเล่นผีด้วยแก้วนั้น มักจะมีข้อห้ามดังต่อไปนี้
o ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนเล่นผีถ้วยแก้ว ห้ามแตะต้องแอลกอฮอล์เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติดวงวิญญาณ
o เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในขณะเล่นผีถ้วยแก้ว
o ผู้เล่นต้องสื่อสารกับวิญญาณด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ดูหมิ่น ลองดี หรือลองของในทุกกรณี
o แก้ว ถ้วย หรือวัตถุที่นำวิญญาณต้องคว่ำลงเสมอ ห้ามเปิดแก้วก่อนเล่นเสร็จอย่างเด็ดขาด แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ขอให้เล่นต่อพร้อมกับขออภัยดวงวิญญาณ เพราะเชื่อกันว่าที่จริงแล้วดวงวิญญาณไม่ได้สิงอยู่ในแก้ว แต่อยู่ข้างๆ หากไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี วิญญาณก็จะไม่ทำร้ายเช่นกัน
o ระหว่างการเล่นผีถ้วยแก้วห้ามยกนิ้วขึ้นจากวัตถุนำวิญญาณ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและอาจถูกวิญญาณทำร้าน หรือเข้าสิง แต่ถ้าหากจำเป็นจริงๆ ให้บอกกล่าวหรือขออนุญาตดวงวิญญาณก่อน
o บางความเชื่อระบุว่าจำนวนผู้เล่นผีถ้วยแก้วมีได้สูงสุดครั้งละไม่เกิน 4 คน เท่านั้น
o ในขณะเล่นผีถ้วยแก้วควรมีความสำรวม พูดจาอย่างสุภาพ ไม่เล่นหัวกันมากจนเกินไปนัก
วัน เวลา และสถานที่ใดบ้างที่ไม่ควรเล่นผีถ้วยแก้ว
โดยทั่วไปแล้วการเล่นผีถ้วยแก้วมักจะเลี่ยงวันพระ หรือวันบุญใหญ่ เพราะดวงวิญญาณทั้งหลายมักจะมีกิจธุระ ไปพบญาติสนิท หรือประชุมร่วมกัน จนไม่อาจมาร่วมสนทนาในการเล่นด้วยได้ และหากจำเป็นต้องเล่นผีถ้วยแก้วในสถานที่มีความ “เสี่ยง” ว่าอาจจะเกิดอันตรายจากสิ่งลี้ลับ ให้ทำการจุดธูป 4 ดอก พร้อมกับทำการอธิษฐานของบารมีจากท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ให้ช่วยปกป้องคุ้มครอง แล้วนำธูปไปปักเอาไว้ทั้ง 4 ทิศ รอบวงที่เล่น
การเล่นผีถ้วยแก้ว กับ “ราคาที่อาจต้องจ่าย”
การเล่นผีถ้วยแก้ว นอกจากจะได้สอบถามในสิ่งที่ต้องการ หรือได้ทราบอนาคตบางส่วน คนส่วนใหญ่อาจจบการเล่นผีถ้วยแก้วด้วยความสนุกสนาน แต่สำหรับบางคนแล้วราคาที่ต้องจ่ายให้กับการเล่นผีถ้วยแก้วไม่ใช่เพียงแค่ “คำขอบคุณ” หรือ “เครื่องเซ่น” หากเป็น “จิตสัมผัสต่อวิญญาณที่ง่ายมากขึ้น” เพราะการเล่นผีถ้วยแก้วในบางครั้ง ทำให้เกิดการเชื่อมโยงจิตของผู้เล่นกับดวงวิญญาณที่ตอบรับคำเชิญให้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนทำให้อาจมองเห็นผีได้ง่ายขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่คนอยากเล่นผีถ้วยแก้วต้องยอมรับก่อนทำการเล่น แต่ถ้าหากใครไม่อยากเบิกเนตรที่สามจนต้องขนลุกเกรียวการหลีกเลี่ยงไม่เล่นผีถ้วยแก้วตั้งแต่แรก ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ฉลาดมากกว่า
ทำไมผีถ้วยแก้วจึงสามารถขยับได้เอง!?
โดยพื้นฐานแล้ว ผีถ้วยแก้วสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ “ผีถ้วยแก้วที่มีจริง” และ “ผีถ้วยแก้วที่ไม่มีจริง” ดังต่อไปนี้
ผีถ้วยแก้วแบบมีจริง ผีสางและเทวดา
โดยทั่วไปแล้วหลังจากที่ทำพิธีเชิญวิญญาณ สิ่งลี้ลับที่มักมาสิ่งสิงสถิตในวัตถุนำวิญญาณมักจะเป็น สัมภเวสี ผีเร่ร่อน ที่เต็มไปด้วยความอดอยาก หรือภุมมเทวาระดับล่าง ที่สิงสถิตอยู่ ณ บริเวณนั้น ที่ตอบรับคำเชิญ เมื่อปรากฏตัวผู้เล่นจะมองไม่เห็น แต่วิญญาณเหล่านี้จะนั่งยอมๆคร่อมแผ่นกระดาน แล้วใช้มือวางซ้อนกับมือของผู้เล่นแล้วช่วยขยับมือไปมาตามคำถามที่ได้ยิน สิ่งที่อันตรายที่สุดคือ การที่ผู้เล่นอัญเชิญดวงวิญญาณโดยการระบุชื่อเสียงเรียงนาม แต่วิญญาณที่มากลับเป็นตนอื่นที่สวมรอยมากแทน ถ้าหากตนสวมรอยเพียงมาเพราะความคะนองสนุก อยากแกล้งก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าหากมาด้วยจุดประสงค์ร้าย นอกจากคำตอบที่ใดจะไม่ตรงคำถามแล้ว ยังอาจสร้างประสบการณ์สุดหลอนให้กับผู้เล่นได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ผีถ้วยแก้วแบบไม่มีจริง กับความเชื่อด้านวิทยาศาสตร์
ผีถ้วยแก้วแบบไม่มีจริง คือ การขยับของถ้วยแก้วด้วยตัวของผู้เล่นในกลุ่ม โดยการขยับแก้วยังแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ “ขยับแก้วแบบรู้สึกตัว” กับ “ขยับแก้วแบบไม่รู้สึกตัว” ดังนี้
การขยับแก้วแบบรู้สึกตัว : ความคึกคะนอง
เป็นพฤติกรรมที่สามารถพบได้บ่อย และเป็นสาเหตุสำคัญที่มักทำให้แก้วเกิดการขยับไปมาจากความคึกคะนองของผู้เล่นบางคน หรือทั้งกลุ่ม ที่ใช้แรงนิ้วดันให้แก้วเคลื่อนที่ไปมาเหมือนกับกำลังถูกชี้นำด้วยวิญญาณ โดยมีสาเหตุมาจากความคึกคะนอง เจตนาแสดงความดูหมิ่น หรืออยากสร้างบรรยากาศในการเล่นผีถ้วยแก้วให้น่ากลัวมากขึ้น
การขยับแก้วแบบไม่รู้สึกตัว : จิตใต้สำนึก
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้วัตถุเกิดการเคลื่อนที่เองในระหว่างการเล่นผีถ้วยแก้วทั้งที่ไม่มีใครขยับว่า เกิดขึ้นมาจาก “จิตใต้สำนึก” ของผู้เล่น ที่ทำการขยับวัตถุเหล่านั้นโดยตัวเองอย่างไม่ทันรู้ตัว
การเล่นผีถ้วยแก้ว แม้จะเป็นเพียงความเชื่อในการติดต่อกับโลกหลังความตาย แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่เคยจางหายไปจากวัฒนธรรมทั่วโลก แถมยังได้รับการพัฒนาให้มากขึ้น ทั้งในแง่ของวิธีการเล่น และวัตถุที่นำมาใช้เป็นสื่อนำวิญญาณที่มีความหลากหลายมากขึ้น แต่สิ่งที่ยังคงเดิมคือ “ความหลอน” จากความลี้ลับที่เกิดขึ้นจากการเล่นผีถ้วยแก้วที่ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบมารองรับได้อย่างเป็นรูปธรรม...