10 ความเชื่อ ในการจัดงานและการทำศพไทยในสมัยก่อน
การจัดงานศพของคนไทยในสมัยก่อน... มีความแตกต่างทั้งในด้านของความเชื่อ การทำศพและพิธีกรรมในการเผาศพที่แตกต่างจากในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทำให้หลายขั้นตอนที่เคยยึดถือตามกันมานั้น ค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลาอย่างน่าเสียดาย ซึ่งในอดีตจะมีความเชื่อในการจัดงานศพอย่างไรกันบ้างนั้น ลองมาติดตามอ่านจากบทความชิ้นนี้กันดีกว่า
10 พิธีกรรมความเชื่อในการทำศพและจัดงานศพของคนไทยสมัยก่อน

1.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : เงินปากผี
ในสมัยก่อนมักนำเงินพดด้วงมาทำการผูกเชือกเพื่อใส่เอาไว้ในปากของศพในระหว่างการจัดงานศพ ด้วยความเชื่อที่น่าสนใจ 3 ประการคือ
- เงินปากผีเป็นปริศนาธรรมให้ข้อคิดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเมื่อตายแล้วก็ไม่สามารถนำติดตัวไปด้วยได้
- เงินปากผี เป็นเงินค่าจ้างให้กับสัปเหร่อ ให้ล้วงเอาไปใช้จ่ายในการทำศพ
- เงินปากผี เป็นค่าจ้างของผู้ที่ทำหน้าที่นำวิญญาณไปสู่โลกหลังความตาย
2.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : หมากปากผี
หมากปากผี เป็นหนึ่งในความเชื่อและปริศนาธรรมสั่งสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า เมื่อเสียชีวิตไปแล้วแม้จะทำการตำหมากที่คนไทยสมัยก่อนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก ก็ไม่สามารถที่จะเคียวลิ้มรับรสของอร่อยได้อีกต่อไป
3.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ: อาบน้ำศพ
ในปัจจุบันการอาบน้ำศพ หลายคนอาจคุ้นชินกับการนำน้ำใส่ภาชนะแล้วนำไปราดลงบนร่างของศพหรือบนมือของศพ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นน้ำมะพร้าวหรือน้ำหอมก่อนที่จะนำศพไปเผา แต่ในอดีตการอาบน้ำศพคือ การอาบน้ำจริง เป็นการอาบน้ำให้กับศพทุกส่วน โดยน้ำที่นำมาอาบให้กับศพนั้นจะเป็นน้ำสมุนไพรที่ถูกต้มทิ้งเอาไว้จนอุ่น เมื่อทำการอาบน้ำอุ่นให้กับศพแล้วก็จะทำการอาบด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ปิดท้ายด้วยการฟอกด้วยขมิ้นอีกครั้ง
4.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : ประตูป่า

ประตูป่า เป็นประตูที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อเป็นเส้นทางในการนำศพผ่านออกมาจากบ้านโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นประตูเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นมาสำหรับคนตาย เมื่อมีคนตายในบ้านจะมีการรื้อผนังบ้านออกแล้วนำเอากิ่งไม้มาปักทำเป็นซุ้มประตู ขณะที่ทำการขนศพออกมาจากทางประตูปลายเท้าจะต้องออกมาก่อนเสมอ เพราะเชื่อว่าจะช่วยทำให้ศพมองไม่เห็นบ้านจดเกิดจิตห่วงหาอาลัย เมื่อนำศพพ้นประตูป่าก็จะทำการรื้อทิ้งทันทีแล้วทำการปิดฝาบ้านให้เรียบร้อย พิธีกรรมนี้เชื่อว่าจะช่วยทำให้วิญญาณผู้ตายหาทางกลับเข้าบ้านไม่ได้เพราะหาประตูผีที่ถูกทำลายไปแล้วไม่พบนั่นเอง
5.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : บันไดผี
บันไดผี ถูกสร้างขึ้นชั่วคราวโดยมีจุดประสงค์เดียวกับประตูป่า และจะทำการรื้อทิ้งทันทีเมื่อทำการขนศพผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้วิญญาณหาบันไดไม่พบและไม่สามารถกลับเข้าไปในบ้านได้
6.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : การบอกทางวิญญาณ
การบอกทางวิญญาณยังพอมีให้เห็นในแถบภาคอีสาน เป็นหนึ่งในพิธีกรรมในขณะที่กำลังพาศพเดินทางไปยังวัด โดยญาติจะทำการพูดบอกทางกับศพเป็นระยะว่าไปทางไหน เลี้ยวตรงไหนบ้างเพื่อให้วิญญาณที่กำลังเดินตามร่างของตัวเองไม่หลงทาง
7.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : ซัดข้าวสารไล่ความอัปมงคล
เป็นพิธีกรรมในขณะที่กำลังขนศพออกจากบ้าน เชื่อกันว่าการซัดข้าวสารควบคู่ไปกับการบริกรรมคาถา เป็นการช่วยไล่ความอัปมงคลให้ออกไปจากตัวบ้านพร้อมกับศพ
8.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : โปรยข้าวสารตอก
การโปรยข้าวสารตอกเป็นหนึ่งในปริศนาธรรมที่จะทำขึ้นในระหว่างที่ทำการเคลื่อนย้ายศพไปยังวัด การโปรยข้าวสารตอกลงพื้นเป็นเหมือนกับการแสดงให้เห็นว่าเมื่อคนเราเสียชีวิตไปแล้วก็จะไม่มีทางฟื้นคืนชีพกลับมาเหมือนกับข้าวสารตอกที่ต่อให้โยนลงพื้นดินก็จะไม่มีทางที่จะงอกเงยกลับมาอีกตลอดกาล
9.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : เทียนขี้ผึ้ง

เทียนขี้ผึ้ง เป็นวิธีตรวจสอบว่าเสียชีวิตจริงหรือเปล่า!? เพราะในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยเพียงพอในการยืนยันว่าใครเสียชีวิตแล้วบ้าง ดังนั้น เมื่อมีคนหยุดหายใจ ชาวบ้านจะทำการจุดเทียนขี้ผึ้งขึ้นมาหนึ่งเล่มแล้วรอจนกระทั่งเทียนละลายหมดเล่มดับไปเอง หากยังไม่ฟื้นแสดงว่าคนผู้นั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
10.พิธีกรรมทำและจัดงานศพ : หวีผมคนตาย
ในสมัยก่อนจะทำการหวีผมให้กับคนตาย โดยการใช้หวีเสนียดเป็นจำนวน 3 ครั้ง โดยทำการหวีไปข้างหน้าซีกหนึ่งและหวีไปข้างหลังอีกซีกหนึ่ง เป็นตัวแทนของคนเป็นและคนตาย จากนั้นจึงทำการหักหวีทิ้ง เป็นตัวแทนของปริศนาธรรมว่าต่อให้เป็นหวีที่ดีเพียงใด แต่หากถูกหักทิ้งไปก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีก เหมือนกับชีวิตของคนเรานั่นเอง
พิธีกรรมทำและจัดงานศพ... ที่ได้กล่าวถึงกันไปแล้วในตอนต้น ล้วนแล้วแต่เป็นข้อปฏิบัติที่เริ่มเห็นได้ยากแล้วในปัจจุบัน ที่วิถีการใช้ชีวิตหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปและการจัดงานทำศพนั้น ก็มีความสะดวกสบายเป็นระบบมากขึ้น โดยขาดการแสดงให้เห็นปริศนาธรรมที่ช่วยสั่งสอนคนเป็นให้ปลงกับความตายที่สักวันหนึ่งต้องมาเยือนตัวเองกันทุกคน...
